วันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อุปกรณ์ต่อพ่วง(printer)

การเลือกซื้อ Flash Drive
      พอร์ตการเชื่อมต่อปกติเป็พอร์ต USB 1.1 และ USB 2.0 ให้เลือก USB2.0 เพราะจะมีความเร็วต่างกันมาก แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเครื่องคอมฯ ของคุณมีพอร์ต USB เวอร์ชั่น 1.1 ก็สามารถใช้งานร่วมกันได้เช่นกัน
               
   ความจุ

เดิมความจุเริ่มต้นด้วย?8, 16, 32, 64, 128 และ 256 MB??แต่ปัจจุบัน เริ่มต้นกันที่ 1,024 MB หรือ 1, 2, 4, 8, 16?GB แล้วครับ?
         ความสามารถอื่นๆ
ถ้าต้องการมากกว่าบันทึกข้อมูลแล้ว การพิจารณา Flash Drive ในอยู่ในรูปของ 4 in 1 ซึ่งมีความสามารถพิเศษอื่นๆ เพิ่มคือ ฟังวิทยุ เล่นไฟล์ MP3, บันทึกเสียง และท้ายสุดบันทึกข้อมูลได้ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่ราคาเมื่อเทียบกับความจุแล้ว จะต่างกันมาก
  ขนาด
ไม่มีผลกับความจุ แต่อย่างไรก็ตาม ขนาดโดยทั่วไปจะทำกับปากกา บางยี่ห้อมีการทำ Mini Flash Drive ซึ่งมีขนาดเล็กลงไปอีก ซึ่งสามารถใช้ห้อยคอได้ด้วย
    ความเข้ากัน
Flash Drive จะใช้งานได้ดีกับ Windows ME, 2000 และ XP โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้ง Driver แต่สำหรับ Windows 98 จำเป็นต้องมีการลง Driver ก่อนการใช้งาน
  ไฟแสดงสถานะ?
บางรุ่นจะมีไฟ LED เล็กๆ แสดงอยู่ ทำให้เราสามารถตรวจสอบได้ว่า Flash Drive ถูกใช้งานอยู่
ทิปการใช้งาน 
 Flash Driver หลังจากเลือกซื้อได้แล้ว อย่าลืมศึกษาเรื่องการใช้งานสักนิด เพราะว่าการเสียบ Flash Drive เข้ากับคอมฯ ในช่อง USB นั้น สามารถเสียบได้ทันที แต่กรณีที่ต้องการถอดออก โดยไม่ต้องการปิดเครื่องคอมฯ นั้น ให้ทำการ Stop การใช้งานก่อน เพราะมิฉะนั้น อาจทำให้ Flash Drive เสียหายได้..

เครื่องพริ้นเตอร์(Printer)
          เครื่องพริ้นเตอร์(Printer) คือ อุปกรณ์ชนิดหนึ่งในระบบคอมพิวเตอร์ที่จะทำหน้าที่ในการพิมพ์ข้อมูล เอกสารหรืองานต่างๆ ที่เราทำไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ออกมาสู่วัสดุต่างๆ ที่เราต้องการ เช่น กระดาษ พลาสติก หรือวัสดุอื่นๆ โดยทั่วไปเราจะแบ่งเครื่องPrinterออกไปตามคุณสมบัติ และลักษณะการใช้งานเครื่อง  ซึ่งเครื่องพริ้นเตอร์ที่นิยมใช้งานมีทั้งหมด 4 ชนิด ดังนี้คือ
       1.เครื่องพิมพ์แบบหัวเข็ม
 (Dot matrix Printer)                                          2.เคื่องพิมพ์แบบอิงค์เจต
 (Inkjet Printer)
       3.เครื่องพิมพ์เลเซอร์
 (LaserPrinter)                                                  4.เครื่องพิมพ์ความร้อน
 (Thermal Printer)
1.เครื่องพิมพ์แบบหัวเข็ม (Dot Matrix Printer)
          เป็นเครื่องพิมพ์ชนิดแรกที่ถูกผลิตขึ้นมาใช้งาน แต่ปัจจุบันจะใช้งานบางประเภทเท่านั้น  หลักการทำงานใช้ระบบหัวเข็มยิงกระแทกผ่านผ้าหมึกไปยังกระดาษ  ภาพที่เกิดขึ้นเกิดจากสีของน้ำหมึกที่ซึมอยู่ในผ้าหมึก เหมาะสำหรับงานที่ มีแต่ตารางและตัวหนังสือ และงานที่ต้องการสำเนาที่เกิดขึ้นพร้อมต้นฉบับ เช่น บิล หรือ รายงาน ต่าง ๆ  เครื่องพิมพ์ชนิดนี้สามารถสรุปข้อดี-ข้อเสีย ได้ดังนี้คือ
ข้อดี
           1.สามารถพิมพ์ครั้งเดียวได้ หลาย ๆ แผ่น หรือหลาย COPY ถือว่าเป็นลักษณะเด่นของเครื่องพิมพ์แบบนี้
            2.ประหยัดผ้าหมึกและผ้าหมึกมีราคาถูก  และยังใช้ได้กับกระดาษต่อเนื่อง     หรือ ชนิดแผ่นก็ได้
            3.อะไหล่ และ ค่าซ่อมมีราคาไม่สูงมาก
            4.มีความแข็งแรงทนทานในการใช้งานสูง
ข้อเสีย
            1.พิมพ์งานกราฟฟิค ที่มีความละเอียดมาก หรือพิมพ์ภาพสี ไม่ได้
            2.พิมพ์งานได้ช้า  และมีเสียงดัง
            3.มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก และ กินกระแสไฟฟ้ามาก
            4.ในปัจจุบันราคาค่อนข้างสูง
                        ในปัจจุบันมีหลายยี่ห้อ เช่น Epson, Oki, Nec, Fujisu เป็นต้น  
2.เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจต (Inkjet Printer)
            เป็นเครื่องพิมพ์ที่นิยมใช้งานกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีข้อดีหลาย ๆ ข้อที่ดีกว่าเคื่องพิมพ์แบบหัวเข็ม โดยลักษณะของส่วนประกอบและการทำงานจะคล้ายคลึงกับเครื่องพิมพ์แบบหัวเข็มมาก  เพราะว่าเป็นเครื่องพิมพ์ที่มีพัฒนาการมาจากเคื่องพิมพ์แบบหัวเข็มนั่นเอง เนื่องจากโครงสร้างมีลักษณะต่าง ๆ ที่คล้ายกันโดยจะมีความแตกต่างกันบ้าง คือ ในส่วนของหัวพิมพ์เท่านั่น
            โดยในเครื่องพิมพ์แบบนี้จะใช้หมึกพิมพ์เป็นน้ำ แล้วฉีดพ่นออกไปบนกระดาษ หรือ วัสดุในการพิมพ์ต่าง ๆ เช่น 
สติกเกอร์  หรือ แผ่นใส เป็นต้น 
            ในปัจจุบันกลุ่มผู้ใช้ที่นิยมใช้เครื่องพิมพ์แบบนี้ คือ กลุ่มผู้ใชเครื่องพิมพ์ตามบ้านเรือน (Home User) เนื่องจากเป็นเครื่องพิมพ์เอนกประสงค์ อีกทั้งตัวเครื่องยังมีราคาถูกกว่าเครื่องพิมพ์แบบอื่น โดยจะสามารถสรุปข้อดี - ข้อเสีย ได้ดังนี้ คือ
ข้อดี
            1.ตัวเครื่องราคาถูกลงมาก
            2.สามารถพิมพ์ภาพสี หรือ ภาพกราฟฟิกได้ดี                                                                
            3.มีความเร็วและความละเอียดในการพิมพ์สูง
            4.เสียงในขณะพิมพ์จะเงียบมาก
            5.ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก และ มีน้ำหนักเบา
            6.สามารถเติมน้ำหมึกเองได้ในราคาไม่แพง
ข้อเสีย
            1.อาจจะปัญหาเกี่ยวกับหัวพิมพ์อุดตันได้ง่าย
            2.หมึกพิมพ์แท้มีราคาแพง
            3.ราคาอะไหล่ค่อนข้างแพง
            4.ไม่นิยมซ่อมเพราะค่าซ่อมแพง
           ปัจจุบันเครื่องพิมพ์ชนิดนี้มีใช้งานและจำหน่ายหลายยี่ห้อ เช่น Epson, Nec, Hewllet Packard, Lexmark, Compaq
เป็นต้น 
3.เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ (Laser Printer)
            เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ถือได้ว่า เป็นเครื่องพิมพ์ที่นิยมใช้งานมากในบริษัท ห้างร้านต่าง ๆ ที่ต้องการพิมพ์งาน หรือ เอกสารที่ต้องการความคมชัด ซึ่งเครื่องพิมพ์แบบนี้จะให้ความคมชัดในการพิมพ์มากที่สุด แม้จะไปเปรียบเทียบกับเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจตที่มีคุณภาพดีที่สุด ก็แล้วแต่ก็ยังมีขอบภาพ หรือ ตัวอักษรเป็นริ้ว ๆ ก็เพราะว่าเป็นหมึกน้ำนั่นเอง ส่วนเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์จะเป็นหมึกผง ที่ทำให้ละลายติดกระดาษโดยตรงจึงคมชัดกว่า
            ในปัจจุบันเครื่องพิมพ์ชนิดนี้มีราคาถูกลงมากจึงนิยมใช้งานกันทั่วไป เราสามารถสรุปข้อดี - ข้อเสีย ของเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ได้ดังนี้ คือ 
ข้อดี
            1.คุณภาพการพิมพ์มีความคมชัดมากที่สุด
            2.มีความเร็วในการพิมพ์สูงที่สุด
            3.เสียงในขณะพิมพ์จะเงียบมาก
            4.ตัวเครื่องมีขนาดเล็ก และ ราคาถูกลงมาก
            5.เราสามรถเติมผงหมึกเองได้ไม่ยาก
ข้อเสีย
            1.ไม่สามารถพิมพ์ภาพสีได้ หากพิมพ์ได้จะมีราคาแพงมาก
            2.ตลับหมึกของแท้ราคาแพง แต่ปัจจุบันมีแบบนำกลับมาใช้ใหม่ได้
            3.ค่าอะไหล่ และ ค่าซ่อมค่อนข้างแพง
            ปัจจุบันมีใช้งานและจำหน่ายหลายยี่ห้อ เช่น Hewllet Packard, Oki, Compaq, Epson เป็นต้น      
 เทคโนโลยีต่าง ๆ ในเครื่อง PRINTER
            ความสามารถพิเศษอื่น ๆ ในเครื่องพิมพ์ ปัจจุบันมีมากมายที่แต่ละบริษัทแต่ละยี่ห้อ ได้ทำการพัฒนาขึ้นมาใช้กับผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เพื่อความสามารถที่เหนือกว่าและดีกว่า ตัวอย่างเช่น
            เทคโนโลยี Photo Ret 1, 2, 3, 4 ในเครื่องพิมพ์ยี่ห้อฮิลเล็ตแพคการ์ด (Hewllet Packard) หรือ HP ซึ่งจะเป็นเทคนิคการพิมพ์ ที่ใช้วิธีการพิมพ์หมึกทับซ้อนกันหลายชั้น เพื่อที่จะผสมสีให้ได้สีสันที่มีความเหมือนจริง หรือ มีความเหมือนธรรมชาติมากที่สุด
             เทคโนโลยี CAPT ในเครื่องพิมพ์ยี่ห้อแคนอน (Canon) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้การดึงเอาแรมจากเครื่องคอมพิวเตอร์มาช่วยในการประมวลผล หรือ ที่เรียกว่า การแชร์เมโมรี่ (Momory Share) ซึ่งจะทำให้ตัวเครื่องราคาถูกลง เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยี่ห้ออื่น ที่มีความสามารถเท่า ๆ กัน
              เทคโนโลยี SCoA คือ เทคโนโลยีบีบอัดข้อมูล (Data Compress) เพื่อจะทำให้การพิมพ์ต่าง ๆ มีความรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีใช้งานในเครื่องปรินท์เตอร์ยี่ห้อแคนนอน (Canon) โดยเครื่องพิมพ์ที่มีเทคโนโลยีทั้งสองแบบนี้คือ เครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์รุ่น LPB - 1210 ยี่ห้อแคนนอน  
               เทคโนโลยี PIM (Print Image Matching) คือ เทคโนโลยีที่สามารถอ่านค่าของสีไดัอย่างแม่นยำที่มีใช้งานในเครื่องพิมพ์ยี่ห้อแอปสัน (Epson)อย่างเช่น เครื่องพิมพ์รุ่น Photo830U ซึ่งเทคโนโลยี PIM ของแอปสันเพื่อให้การพิมพ์ภาพมีสีสันเหมือนจริงมากที่สุด
                 เทคโนโลยี UMD (Ultra Micro Dot) คือ เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อทำให้ขนาดหยดหมึกที่พิมพ์ออกมามีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเทคโนโลยีดังกล่าวนี้มีใช้งานอยู่หลายยี่ห้อ ซึ่งปัจจุบันขนาดของหยดหมึกจะมีขนาดเล็กมากเป็นพิโคลิตร (Pico Lites)โดยประมาณจะอยู่ในช่วง 2-5 พิโคลิตร ( พิโคลิตร คือ การแบ่งหมึก 1 ลิตร ให้เป็นล้านล้านส่วน) ดังนั้น 2-5 พิโคลิตร จึงหมายถึง สองถึงห้าส่วนหนึ่งล้านล้านส่วนของหนึ่งลิตร ซึ่งก็จะมีขนาดหยดหมึกที่เล็กมาก  


  
จะเลือกซื้อ Printer อย่างไรให้เหมาะกับการใช้งานและคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
เครื่องพิมพ์หรือ Printer ถือว่าเป็นหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับงานเอกสารในองค์กรและ พิมพ์เอกสารเพื่อใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น บริษัทองค์กร หรือผู้ใช้งามพิมพ์เอกสารทั่วไป โดยลักษณะผู้ใช้งานในแต่ละรูปแบบของการพิมพ์ก็จะมีความแตกต่างกันไปตาม ประเภทของการใช้งาน เรามาทำความรู้จักกับเครื่องพิมพ์ในแต่ละรูปแบบกัน โดยผมจะแยกตามการใช้งานทั่วไป ดังนี้
เครื่องพิมพ์ดอตเมตริกซ์ (Dotmatrix Printer)
LX-300+II left
  • เครื่องพิมพ์ดอตเมตริกซ์ (Dotmatrix Printer) : เป็นเครื่องแบบหัวเข็ม โดยลักษณะการทำงานนั้นจะเป็นในรูปแบบของผ้าหมึกคล้าย ๆ กับการทำงานของเครื่องพิมพ์ดีด ส่วนใหญ่เรามักจะพบเจอเครื่องพิมพ์ประเภทนี้ตามสำนักงาน ซึ่งข้อดีของเครื่องพิมพ์ประเภทนี้คือความประหยัดของหมึกเมื่อเทียบกับตลับ หมึกแบบบอื่น ๆ โดยความละเอียดของตัวหมึกนั้นจะสามารถรองรับการพิมพ์ความละเอียดสูงสุดได้ ที่ 360X360 จุดต่อตารางนิ้ว โดยจำนวนของหัวพิมพ์ส่วนใหญ่นั้นจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน ได้แก่ 24 และ 32 หัวเข็ม ยิ่งหัวเข็มมากก็สามารถพิมพ์งานได้ละเอียดขึ้น โดยส่วนใหญ่เครื่องพิมพ์แบบดอตเมตริกซ์จะเป็นหัวพิมพ์แบบสีเดียว เพื่อใช้สำหรับพิมพ์ตัวอักษรเป็นหลัก ดังนั้น งานพิมพ์จะเป็นงานเอกสารเป็นส่วนใหญ่ เครื่องพิมพ์ในลักษณะนี้เหมาะกับผู้ใช้แบบสำนักงานมากกว่า ด้วยข้อจำกัดของกระดาษที่จะต้องเป็นกระดาษเฉพาะแบบยาวในการพิมพ์
LX-300+II left    9496  Panasonic_P1131_Dot_Matrix_Printer
EPSON-LX300  (ราคา 7,800 บาท)             OKI ML390T (ราคา 11,000 บาท)        Panasonic P1131 (ราคา 8,500 บาท)
จุดเด่นของเครื่องพิมพ์แบบดอตเมตริกซ์
  • ตลับหมึกสามารถพิมพ์งานได้ยาวนาน และไม่มีปัญหาในเรื่องของหมึก
  • ประหยัดงบในการซื้อตลับหมึกไปได้มาก เพราะเครื่องสามารถพิมพ์ได้เป็นเวลายาวนาน
จุดสังเกตของเครื่องพิมพ์แบบดอตเมตริกซ์
  • ตัวกระดาษที่พิมพ์นั้นเป็นกระดาษแถบยาว ต้องใช้กระดาษเฉพาะเครื่อง
  • การพิมพ์หัวเข็มทำให้กระดาษช้ำเป็นรอยและอาจจะทะลุได้
  • หมึกส่วนใหญ่นั้นจะเป็นหมึกพิมพ์สีเดียวเท่านั้น
  • เครื่องพิมพ์เสียงดัง และเมื่อเทียบกับการพิมพ์แบบบ Inkjet แล้ว ความเร็วในการพิมพ์นั้นค่อนข้างจะช้ากว่า

เครื่องพิมพ์แบบอิงก์เจ็ต (Inkjet Printer)
mx328  L100-(550-x-310)HP_B209a
           Canon MX328 (ราคา 3,590 บาท)                 EPSON L100 ( ราคา 4,790 บาท)                HP B209a (ราคา 6,500 บาท)
  • เครื่องพิมพ์แบบอิงก์เจ็ต (Inkjet Printer) : เป็นเครื่องพิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานธรรมดาอย่างนักเรียน นักศึกษา รวมไปถึงกลุ่มองค์กร การทำงานของตัวเครื่อง Inkjet นั้นจะเป็นลักษณะของการฉีดน้ำหมึกลงบนตัวกระดาษ  โดยจะรองรับการพิมพ์ทั้งภาพสีและดำ ซึ่งผู้ผลิตแต่ละค่ายก็จะมีคุณภาพหมึกและราคาแตกต่างกันไป โดยราคาหมึกนั้น เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อในระดับหนึ่ง เพราะราคาหมึกหลังจากซื้อนั้นมีราคาที่แตกต่างกันไป  และอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับเครื่องพิมพ์แบบ Inkjet ก็คือ เครื่องพิมพ์บางรรุ่นสามารถรองรับการพิมพ์กระดาษขนาดมากกว่า A4 ได้ สามารถรองรับการพิมพ์กระดาษขนาดกว้าง ๆ ได้ถึงขนาด A3 ซึ่งในปัจจุบันทางผู้ผลิตก็พยายามพัฒนาเครื่องพิมพ์ให้รองรับการใช้งานใน ระบบบ Input ข้อมูลเข้าเครื่องพิมพ์ได้สะดวกมากขึ้่นด้วยการใส่ USB เข้ามาเพิ่มความสะดวกในกาพิมพ์ เพิ่มเครื่อง Scan เข้าไปในตัวเครื่อง เพื่อให้รองรับการพิมพ์เอกสารและลูกเล่นอื่น ๆ ที่รองรับการพิมพ์ที่มากขึ้น จนเรียกกันอีกรูปแบบว่า เครื่องพิมพ์แบบมัลติฟังก์ชัน (Multifunction Printer) ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์งาน และรองรับการใช้งานในรูปแบบของการพิมพ์เอกสารและงานภาพพิมพ์ต่าง ๆ รวมทั้งเพิ่มความสะดวกอื่น ๆ เข้าไป เช่น Scan, Fax รองรับการใช้งานพิมพ์แบบไร้สาย, รองรับการพิมพ์แผ่น CD และ DVD รวมทั้งสามารถตั้งค่าการใช้งานของผู้ใช้และระบบการพิมพ์ในสำนักงานได้ ซึ่งในปัจจุบันตลับหมึกมีผลกับการตัดสินใจในการซื้อพอสมควร เนื่องจากราคาตลับหมึกพิมพ์ที่ค่อนข้างสูง ทำให้เกิดการนำไปโมดิฟายเป็นแท็งก์หมึก ซึ่งเป็นการแต่งเครื่องพิมพ์ให้ใช้งานน้ำหมึกในปริมาณที่มากขึ้นและประหยัด แต่จะทำให้เครื่่องพิมพ์นั้นหมดประกันไป แต่รู้สึกว่าจะมีเครื่องจากค่าย EPSON L100 เพียงรุ่นเดียวเท่านั้นที่มีแท็งก์หมึกติดมาให้ในตัว ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นเดียวที่สามารถตีตลาดกับความคุ้มค่าของการพิมพ์ได้แบบ เต็ม ๆ 
L100-(550-x-310)
EPSON L100 เครื่องพิมพ์แบบ Inkjet ที่มาพร้อมหมึก Tank ในตัว ไม่ต้องทำอุปกรณ์เสริมให้ยุ่งยาก
จุดเด่นของเครื่องพิมพ์แบบอิงก์เจ็ต
  • เป็นเครื่องพิมพ์ที่หาซื้อง่าย และในปัจจุบันรองรับการใช้งานครอบคลุมทุกรูปแบบงานพิมพ์
  • ราคาเครื่องถูกและหาซื้อง่าย
  • รองรับกระดาษได้ทั้ง A4 และ A3
  • กาารพิมพ์เป็นแบบพ่นหมึก ทำให้ไม่เกิดรอยจ้ำบนเอกสารหรือภาพพิมพ์
  • รองรับการพิมพ์ได้ทั้งสีและขาวดำ
  • รองรับการใช้งานอื่น ๆ เช่น งานถ่ายเอกสาร, งาน Scan และงานเอกสารอื่น ๆ
  • รองรับการใช้งาน Fax ได้
จุดสังเกตของเครื่องพิมพ์แบบอิงก์เจ็ต
  • ตลับหมึกราคาสูงเมื่อเทียบกับราคาเครื่องพิมพ์ที่ซึ้อไปครั้งแรก จนต้องไปทำแท็งก์สำหรับประหยัดหมึก ซึ่งก็จะทำให้เครื่องพิมพ์หมดประกันไป
  • คุณภาพหมึกไม่สามารถกันน้ำได้

เครื่องเลเซอร์พรินเตอร์ (Laser Printer)
ricoh-sp1100sf    hp-cp1525ncanon-lbp7200
Ricoh-sp1100sf (ราคา 13,000 บาท)     HP CP1525N (ราคา 11,690 บาท)      CANON LBP7200CDN (ราคา 27,000 บาท)
  • เครื่องเลเซอร์พรินเตอร์ (Laser Printer) อีกหนึ่งประเภทของเครื่องพิมพ์ที่ให้คุณภาพในการพิมพ์สูงสุด เมื่อเทียบกับการพิมพ์ทั้ง 2 ตัวดังกล่าว ซึ่งเครื่องพิมพ์เลเซอร์พรินเตอร์นี้ราคาค่อนข้างจะสูง รวมไปถึงราคาของหมึกพิมพ์ที่สูงไปด้วย โดยหลักการพิมพ์ของเครื่องพิมพ์เลเซอร์นี้เป็นการใช้ความร้อนในการรีดหมึก ออกมา โดยในปัจจุบันได้มีการพัฒนาระบบกาารพิมพ์ให้รองรับทั้งการพิมพ์แบบเลเซอร์สี และเลเซอร์ขาวดำ โดยเราเรียกกันว่า เครื่องพิมพ์เลเซอร์พรินเตอร์ขาว-ดำ (Monochrome Laser Printer) และเครื่องเครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Color Laser Printer) ซึ่งคุณสมบัติการพิมพ์ในเรื่องของการพิมพ์นั้นมีความไวสูง และคุณภาพในการพิมพ์ถือว่ามีคุณภาาพที่สุดแล้ว ด้วยหมึกที่รีดด้วยความร้อนจากผงหมึกที่ให้ความละเอียดได้ดีกว่า Inkjet และยังรักษารายละเอียดต่าง ๆ ให้คงที่อยู่ได้เมื่อโดนน้ำ ทำให้เครื่องพิมพ์ประเภทนี้มีราคาที่สูง บวกกับการพัฒนาของผู้ผลิตเครื่องพิมพ์เลเซอร์ที่ทำเอาเทคโนโลยีมัลติ ฟังก์ชันเข้ามาใช้ เพื่อรองรับการใช้งานที่สะดวกขึ้นของผู้ใช้ทำให้การทำงานของผู้ใช้งานทำได้ สะดวกขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งพิมพ์ผ่านระบบไร้สาย รองรับการพิมพ์ผ่านระบบเครือข่าย ส่ง Fax และทำการ Scan หรือถ่ายเอกสาร ถือว่าเป็นเครื่องพิมพ์แบบมัลติฟังก์ชัน (Multifunction Printer) ได้อีกเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่คุณภาพของเครื่องพิมพ์ประเภทนี้มีราคาค่อนข้าสูง ทำให้ส่วนใหญ่แล้วเป็นเครื่องพิมพ์สำหรับสำนักงานมากกว่า
samsung-ml-3471nd-network-duplex-laser-printer-1200x1200dpi-34ppm
จุดเด่นของเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์
  • พิมพ์เร็วและเงียบที่สุด
  • คุณภาพหมึกที่ดี กันน้ำได้ในระดับหนึ่ง
  • รองรับการพิมพ์ได้ทั้งสีและขาวดำ
  • รองรับการใช้งานอื่น ๆ เช่น งานถ่ายเอกสาร งาน Scan และงานเอกสารอื่น ๆ
  • รองรับการใช้งาน Fax ได้
  • รองรับการใช้งานผ่านระบบเครือข่ายได้
จุดสังเกตของเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์
  • เครื่องมีราคาสูง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานแบบองค์กรมากกว่า
  • หมึกมีราคาสูง
  • เครื่องมีขนาดใหญ่และหนัก

คำทิ้งท้ายสำหรับการเลือกซื้อเครื่องพิมพ์
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับเครื่องพิมพ์ในแต่ละประเภทที่วางจำหน่ายใน ปัจจุบันแล้ว จะเห็นได้ว่าเครื่องพิมพ์แบบไหนเหมาะกับการใช้งานของเรา ซึ่่งแน่นอนว่าทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับกำลังงานที่เราจะใช้ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายที่ต้องลงทุนไปทั้งเครื่องพิมพ์ หมึก และค่ากระดาษ อย่างไรก็ตาม จากเนื้อหาข้างต้นนี้หวังว่าเพื่อน ๆ ที่อ่านจะสามารถเลือกซื้อเครื่องพิมพ์ได้อย่างลงตัวกับการใช้งานของตัวเอง มากขึ้นและคุ้มค่ามากที่สุด ตามประเภทที่ต้องการใช้งานนะครั


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น